กิจกรรมการแปรรูปใยสับปะรด

วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2551

+ + เมื่อพบจุดจบ...จึงเห็นจุดเริ่มต้น..+ +


หลายต่อหลายคน... ที่มักประสบกับปัญหาชีวิตเหล่านี้... >>>…เคยท้อ >>>…เคยผิดหวัง >>>…เคยเศร้า >>>…เคยร้องไห้...เสียน้ำตา... >>>…เคยเป็นทุกข์...อยากจบชีวิต..ด้วยวิธีการต่าง ๆ..


แต่คุณทราบหรือไม่ว่า... เมื่อพบจุดจบ...จะทำให้เราเห็นจุดเริ่มต้นในชีวิตที่ดีกว่า... ถ้าเราได้พิจารณาอย่างมีสติ... >>>…หยุดคิดสักนิด... >>>…เพื่อให้เวลากับสติ.... >>>…ได้พิจารณาความเป็นไปของชีวิต... >>>…และได้อยู่กับตนเอง...


หลายต่อหลายครั้ง... >>>…ที่เรามักมองข้ามจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของชีวิต... หลายต่อหลายครั้ง... >>>…ที่เราปล่อยให้วัน เวลา และโอกาสผ่านไป... >>>…โดยที่เราไม่ได้ทำอะไรเลย... นอกจาก... >>>…เป็นทุกข์กับสิ่งที่ผิดหวัง.. >>>…ท้อแท้กับสิ่งที่ทำผิดพลาด... >>>…และเสียใจ...เป็นทุกข์...กับการกระทำของตนเอง...


จุดเริ่มต้นของชีวิต.. เราจะค้นพบก็ต่อเมื่อ...>>…เราเจอจุดจบของปัญหา...


เมื่อเจอปัญหา... เมื่อเจออุปสรรค... >>>…เชื่อหรือไม่ว่า... >>>…เรากำลังจะพบทางออกของชีวิต.. >>>…และพบทางออกของปัญหา...


เพียงแค่... >>>…เราหยุดมองต้นตอของปัญหาสักนิด.. >>>…อย่าที่จะเอาตัวของตัวเราเอง...ไปอยู่... “ในปัญหา”... >>>…จงหยุดและแยกตัวออกมาจากปัญหา... >>>…และทำตัวของเรา.. >>>…เป็นเพียงแต่ผู้ดู...ผู้อยู่...และรู้อย่างเข้าใจ...



วิธีง่าย ๆ เมื่อเจอปัญหา คือ.. >>>…จงหยุด..เพื่อเริ่มต้น... >>>…และเรียนรู้ที่จะใช้สติแก้ปัญหาอย่างเข้าใจ...


ทุกครั้งที่เจอปัญหา... >>>…อย่าที่จะพยายามกระโดดข้ามปัญหานั้น.. >>>…เพราะปัญหามีไว้ให้แก้...ไม่ใช่มีไว้ให้หนี... >>>…เพราะยิ่งหนี...ยิ่งเจอ..และยิ่งทุกข์... >>>…แต่จงเปลี่ยนตัวปัญหา...เป็น....ตัวปัญญา... >>>…โดยใช้สติ...หยุดคิดสักนิด...ด้วยสติพิจารณา...

วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2551

ชีวิตเป็นของเรา...

เราสามารถวาดฝันและลิขิตให้เป็นไปได้... เช่นเดียวกับวิศวกร.... แต่แตกต่างกันที่วิศวกรออกแบบถนน.. โดยพยายามเลี่ยงอุปสรรค... ส่วนมนุษย์ออกแบบชีวิต.. โดยการเผชิญกับอุปสรรคที่ขวางกั้น... ถ้าจะเปรียบกับนักเดินทาง... การตัดสินใจ... และการกระทำที่ถูกต้อง... ก็เหมือนกับการวางแผน.. เลือกเส้นทางที่ถูก.. ทำให้ไม่อ้อมค้อม..หรือพลัดหลงทาง... คนเป็นจำนวนมาก... ดำเนินชีวิตไปตามยถากรรม...ไปวัน ๆ... โดยไม่มีการวางแผนชีวิต.. เพื่อเป็นแปลนไปสู่ความสำเร็จ... และที่แย่ไปกว่านั้น... ก็คือ...ยอมให้คนอื่นมาบงการชีวิต.. หรือไม่ก็ลอกเลียนแบบเอาอย่างคนอื่น.. เพื่อหลอกลวงว่า... ตนเอง...มีความสุข... การประเมินหรือกำหนดคุณค่า...ของตนเอง.. ขึ้นอยู่กับ... “ระดับการนับถือตนเอง”.... และ... “ความเชื่อมั่นในตนเอง”.... ถ้าราปล่อยให้ความเชื่อมั่น... ความนับถือ...ตนเอง...ของเรา... แบบขึ้น ๆ ลง ๆ ... ตามความคิดของคนอื่น... นั่นเพราะ... เราไม่สามารถประเมินค่าตนเองได้ถูกต้อง... ทิศทางของเส้นทางชีวิตของเรา... ถูกกำหนดโดยคนอื่น... เราจึงไม่สามารถ..ยืนหยัด..อยู่ได้ด้วยตนเอง... การรู้จักคุณค่า.. และความสามารถของตนเอง.. จะทำให้เรา...สามารถสร้างหนทาง... สู่จุดหมายที่เราใฝ่ฝันได้.... ดังนั้น...คุณสมบัติของผู้ที่จะประสบความสำเร็จ.. จะต้องประกอบด้วย.. >>>…ความตั้งใจแน่วแน่ >>>…ความมั่นใจ...ความต้องการที่จะพัฒนาตนเอง... >>>…และเปิดกว้าง..พร้อมที่จะศึกษาและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ... และขอให้เราพึงระลึกอยู่เสมอว่า... เราสามารถทำได้... ตราบใดที่เรา...ยังมีลมหายใจอยู่...

วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551

เรื่องของคำคอมพิวเตอร์

คุณเคยสงสัยบ้างหรือไม่ว่า ทำไมฝรั่งจึงเรียกเครื่องว่าฮาร์ดแวร์ และเรียกโปรแกรมว่าซอฟท์แวร์ เรื่องนี้มีคนถามผมอยู่บ่อยๆ ฉบับนี้ผมจะถือโอกาสยึดเอาเนื้อที่บทบก. นี้อธิบายเสียเลย
คำว่าฮาร์ดแวร์ (Hardware) นี้มีมาก่อนคอมพิวเตอร์ ใช้เรียกโลหภัณฑ์ หรือเครื่องมือ
เครื่องใช้ที่ทำด้วยโลหะต่างๆ ภายหลังผู้พัฒนาคอมพิวเตอร์ยุคแรกๆ ก็ยืมคำนี้มีใช้เรียกชิ้นส่วนทางกายภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย ผมใช้คำว่ากายภาพในที่นี้หมายถึงทุกส่วนที่จับต้องได้
ต่อไปจะกล่าวถึงคำว่าซอทฟ์แวร์ (Software) ซึ่งเป็นสิ่งแปลกประหลาดอยู่มาก เพราะมองไม่เห็น จับต้องไม่ได้ แต่มีตัวตน ใช้ประโยชน์ได้ ซื้อขายกันได้แพงๆ พูดอย่างนี้บางคนอาจจะแย้งว่าจับต้องได้สิ เป็นแผ่นดิสก์อย่างไรเล่า ผมอยากจะเรียนว่าที่แผ่นดิสก์นั้นเป็นเพียงพาหนะของซอฟท์แวร์เท่านั้น ไม่ใช่ตัวซอฟท์แวร์ คำว่าซอฟท์แวร์นี้ ราชบัญฑิตยสมาคมได้บรรญัติเป็นภาษาไทยว่า "ละมุนภัณฑ์" ซึ่งไม่ใคร่มีผู้นิยมใช้ คงเรียกทับศัพท์กันเป็นส่วนใหญ่
คำที่ลงท้ายด้วยแวร์ (Ware) ในวงการคอมพิวเตอร์ยังมีอีกหลายคำ เช่นเฟริม์แวร์ (Firmware) หมายถึงซอฟท์แวร์ที่ถูกอัดลงไว้ในรอม (ที่เป็นไอซีในเครื่อง) เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว คือมีความเฟริม์ดีแล้ว แต่ซอฟท์แวร์ที่ถูกอัดไว้ในแผ่นซีดีรอม ไม่ยักเรียกว่าเฟิรม์แวร์ คงเรียกซอทฟ์แวร์ตามปรกติ แสดงว่าเฟิร์มแวร์จะต้องเป็นตัวชิพไอซี ถ้าเป็นแผ่นเก็บข้อมูลถือว่าไม่ใช่ อีกคำก็พีเพิ่ลแวร์ ซึ่งคงไม่จำเป็นต้องอรรถาธิบายแต่ประการใด เพราะความหมายนั้นชัดเจนดีอยู่แล้ว
เวลานี้ก็มีคำใหม่ที่สำคัญ คือคำว่า Information super hiway หรือที่เรียกว่าทางด่วนข้อมูล ถ้าคำนึงถึงว่าคำนี้ต่อไปจะต้องพูดกันถี่มาก ความยาวของคำดูจะไม่เหมาะสม เพราะมีหลายคำ หลายพยางค์เกินไป เรียกขานยาก ก็เลยมีคนเรียกว่า Cyber way สั้นลงมานิดหนึ่ง ผมขอตั้งข้อสังเกตุว่า คำว่า Hiway นั้นก็คงย่อมาจาก High speed way ในเมื่อเราอุปมาว่าการสื่อสารข้อมูลคอมฯ มันเหมือนทางด่วนของรถยนต์อยู่แล้ว ทำไมเราจึงไม่เรียก Information super hiway เสียว่า Cyway เสียเลยจะได้สั้นกระชับดีเหมือน Hiway แล้วเสียงก็ไปทำนองเดียวกันด้วย ไฮเวย์ ไซเวย์ ส่วนภาษาไทยนั้นผมขอมอบให้เป็นหน้าที่ของราชบัณฑิตไปก็แล้วกัน แต่หวังว่าครั้งนี้จะไม่ตั้งแปลกเหมือนอย่างซอฟท์แวร์อีกน่ะครับ
หมายเหตุ : คำว่า Cyber มีที่มายืดยาว แต่ในปัจจุบันนี้อะไรก็ได้ ที่มีความเป็นเครื่องสมองกล มากกว่าความเป็นมนุษย์ ย่อมอนุโลมให้เรียก Cyber ได้หมด
กลับไปหน้ารายชื่อบทความ

วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2551

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ นาวสาวนิภาพร นามสกุล แสงศิริ ชื่อเล่น อุ๋ย
กรุ๊ปเลือด O

เกิดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2529 ปัจจุบัน
อายุ 21 ปี
ที่อยู่ปัจจุบัน 33 หมู่ 3 แขวงหนองค้างพลู
เขตหนองแขม
กรุงเทพ 10160

กำลังศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต หลักสูตร 4 ปี อยู่ชั้นปีที่ 3
คณะวิทยาการจัดการ สาขาบริหารธุรกิจ แขนงคอมพิวเตอร์ธุรกิจ

รหัสประจำตัว 49132792094 ตอนเรียน B1

คติประจำใจ ความกลัวคืออุปสรรค จงเอาชนะมันให้ได้

บุคลิกเป็นคนใจร้าย วู่วาม เอาแต่ใจบ้าง คิดในแง่ดี รักเพื่อน

สัตว์เลี้ยง สุนัข

วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ให้ Notebook ด้วยคำสั่ง Hibernate และ Standby

คุณรู้หรือไม่ นอกจากตัวเลือกสำหรับการปิดเครื่อง Log Off / Restart / Shut Down แล้ว ยังมีคำสั่ง Hibernate และ Standby (Windows XP Professional Edition) ให้อีกด้วย เรามาทำความรู้จักกันว่าแต่ละคำสั่งใช้งานอย่างไร ปกติเวลาเราไม่ได้ใช้เครื่อง หากเป็นเครื่องพีซีทั่วๆไป เวลาออกไปทานข้าว ออกไปข้างนอกไม่นานนัก เราอาจปิดหน้าจอไว้เฉยๆ หรืออาจ Shut Down ไปเลย แต่สำหรับคอมพิวเตอร์ Notebook หากเปิดไว้ตลอดจะเปลืองแบตเตอรี่ หากไปทานข้าวตอนกลางวันอาจพับหน้าจอไว้ โดยไม่ได้เปิดเครื่อง เครื่องอาจจะเข้าสู่โหมด Stand by สำหรับ Windows XP Professional Edition มีคำสั่งในการ Shut Down ดังนี้




Log Off ในกรณีที่คุณไม่ได้อยู่หน้าเครื่อง แล้วไม่อยากให้ใครมายุ่ง ก็เลือก Log Off เพราะจะมีเฉพาะผู้ที่รู้รหัสผ่านของคุณเข้าใช้งานได้เท่านั้น

Shut Down ปิดเครื่อง + ตัดไฟ

Restart รีสตาร์ทระบบใหม่

ทีนี้การ Shut Down และ Restart จะเป็นการปิดเครื่อง ซึ่งเมื่อจะใช้งานอีกครั้งต้องเสียเวลาในการเปิดและโหลดโปรแกรมมาใหม่ ส่วนการ Log Off ก็ช่วยได้เพราะทำงานต่อได้ทันที แต่มันไม่ได้ช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่น่ะสิ

Stand by เหมือนๆกับเราปิดทีวีด้วยรีโมท เครื่องจะยังสแตนบาย มีไฟเข้าตลอดเวลา คล้ายๆกับปิดเครื่องชั่วคราว และก็ยังใช้พลังงานจากแบตเตอรี่อยู่ดี

Hibernate เมื่อก่อนผมเองก็ไม่เคยใช้ แต่พอใช้ก็สะดวกดี เวลาออกไปทานข้าวสัก 1 ชั่วโมงตอนพักเที่ยงก็สั่ง Hibernate ไว้ ช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่แต่ไม่ต้องปิดเครื่องแต่อย่างใด

การตั้งค่าเข้าสู่โหมด Hibernate โดยอัตโนมัติ
1. เปิด Power Options ใน Control Panel
2. เลือกแถบ Hibernate เลือกตัวเลือก Enable Hibernate





จากนั้นเลือกแถบ APM คลิกที่ Enable Advanced Power Management Support
(หากคอมพิวเตอร์ของคุณไม่รองรับ APM ก็จะไม่แสดงแถบนี้)

คลิกแถบ Power Schemes เลือกช่วงเวลาหากคุณไม่ได้ใช้เครื่องเป็นระยะเวลาที่กำหนด เครื่องจะเข้าสู่โหมด Hibernates ตามเวลาที่กำหนดเพื่อประหยัดพลังงาน

ที่นี้ก็จะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานคอมพิวเตอร์โน้ตบุคของคุณให้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ และช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่อีกด้วย


หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่http://www.microsoft.com/windowsxp/using/mobility/getstarted/hibernate.mspx

วิชา เตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพ


วิชาเตรียมฝึกเป็นวิชาที่ตื่นเต้นมากเพราะตั้งแต่เรียนมาตอนอยู่ ปวช.นั้นไม่ต้องเตรียมฝึกก่อนพอไปฝึกจริงๆจึงทำให้รู้สึกตื่นเต้นว่าการเตรียมตัวที่จะฝึกนั้นจะเป็นยังไงโหดไหมแล้วต้องเตรียมตัวอย่างไร แต่ปรากฎว่าพอได้เรียนก็ทำให้รู้ว่าไม่อยากและไม่ง่ายจนเกินไป พอได้ไปเรียนก็มีการตรวจระเบียบขึ้นมาทำให้ต้องลำบากใจ เพราะอาจารย์ได้ตรวจพบว่ากระโปรงผ่าข้าง อาจารย์บอกว่าที่ถูกจริงๆ คือ ผ่าหลังเท่านั้น จึงต้องไปซื้อกระโปรงใหม่มาตัวละ 190บาท พอได้กระโปรงใหม่ก็ได้ใส่ไปเรียนเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ปรากฎว่าก็ผ่านไปได้ด้วยดีทุกครั้ง สำหรับส่วนที่เป็นของที่อาจารย์ได้สอนนั้น บางครั้งเป็นการสอนที่น่าสนใจ แต่บางครั้งเป็นการสอนที่ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไร แต่บางทีก็น่าเบื่อไปเลย อาจทำให้มีความรู้สึกง่วงบางเป็นครั้งคราว แต่ทุกครั้งที่ได้เรียนเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพกับอาจารย์ทุกท่านก็ได้ความรู้กลับมาทุกที แต่บางทีก็ลืมไปบ้างเพราะเหตุที่แอบหลับบ้างในบางครั้งจึงทำให้ได้รับความรู้ไม่หมด บางครั้งก็งง งง ในสิ่งที่อาจารย์สอน มันอาจจะหมายความว่าไม่เข้าใจในสิ่งที่อาจารย์สอน พอเรียนเสร็จตอนกลับบ้าน นี้สิลำบากมากเพราะไม่มีรถกลับ มันมีอยู่สองทาง คือ เดินกลับ กับนั่ง TAXI และทุก ๆ ครั้ง จะเลิกเดินกลับในบางครั้งเท่านั้นที่นั่ง TAXI กลับบ้านแต่ทุกครั้งที่เดินกลับไม่ใช้ว่าจะเหงานะ แต่กลับผิดคลาดมันกลับสนุกมาก เพราะเพื่อนที่ร่วมเดินทางไปด้วย พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ทำให้ลืมไปว่าระยะทางมันแสนไกล พอถึงที่แยกที่ต้องแยกกันเดินก็โบกมือลากัน แล้วพูดว่าพรุ่งนี้ เจอกันใหม่นะ ฝานลีละ แล้วเราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

สิ่งที่ได้จากการเรียนวิชาเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพ

สัปดาห์แรกที่ได้เรียนวิชาเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ก็จะเป็นพิธีการรับขวัญให้กับนักศึกษาทุกคนที่มาจากศูนย์การศึกษาต่างๆ ที่ได้เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัย


สัปดาห์ที่สอง ก็เริ่มมีการเรียนการสอนโดยอาจารย์ท่านแรกที่สอน นั้นก็คือ อาจารย์ โรจนา ศุขะพันธ์ ได้มาบรรยายเกี่ยวกับบุคลิกภาพในด้านต่างๆ ต่อจากนั้นก็เป็นอาจารย์ สาละ ได้ขึ้นมาพูดเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต เมื่อฉันได้ฟังอาจารย์สาละพูดจบ ทำให้มีความรู้สึกว่าต้องปฏิบัติตนให้ถูกกฎระเบียบกับข้อบังคับของมหาวิทยาลัยนี้เป็นอย่างมาก เพราะมหาวิทยาลัยนี้เป็นสถาบันที่ทรงคุณค่าแห่งหนึ่ง เราควรที่จะให้ความเคารพสถาบันที่เราศึกษา


สัปดาห์ที่สาม จะเป็นการเรียนในเรื่อง บริหารการจัดการ การเงินส่วนบุคคล จะเป็นการบรรยายเกี่ยวกับการออม
-ทำไมเราต้องออม
-ทำอย่างไรถึงจะมีเงินออม
-เงินออมมาจากไหน
-ทางเลือกแห่งการลงทุน
เมื่อจบการเรียนการสอนแล้ว ก็ต้องกลับไปทำรายรับรายจ่ายในแต่ละวัน ตั้งแต่ วันที่ 7 ส.ค. – 7ก.ย. 2551



สัปดาห์ที่ สี่ เรียนเกี่ยวกับการฝึกทักษะภาษาอังกฤษและเทคโนโลยีสารสนเทศ ในเรื่องของ Active การพูด (Conversation) การเขียน Passive การอ่าน (Reading) และการฟัง
เมื่อจบภาษาอังกฤษแล้ว ก็จะพูดถึง Blog/ Web Blog คืออะไร จุดเด่นที่ทำให้ Blog เป็นที่นิยม การเขียน Blog สนุกตรงไหน และ 7 วิธีสร้าง Blog อย่างมืออาชีพ


สัปดาห์ที่ห้า จะเป็นเรื่องเกียวกับการจัดบูทของฝ่าย HR จะมีการกล่าวถึงประวัติของ HR บูทของ HR มี 4บูท กิกรรมของ HR ขวัญใจ HR และก็มีการบรรยายเกียวกับ การพัฒนาบุคลิกภาพ

สัปดาห์ที่หก จะเป็นการจัดบูทของเด็กคอมพิวเตอร์ธุรกิจ


ความรู้สึกที่มีต่อโครงการเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
ตลอดเวลาที่ได้เรียนเตรียมฝึกก็มีงานโครงการเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้การเรียนวิชานี้ลำบากมากขึ้นไปอีกขั้นแรกก็ต้องเสนอชื่อโครงการ แต่ที่แน่ๆการเสนอชื่อโครงการคิดว่าง่ายๆหรอ ไม่ใช่อย่างนั้น มันอยากกว่าที่ใครๆจะรู้ซะอีกกว่าจะเสนอชื่อให้ผ่านได้มันแสนยากเย็น แต่พอผ่านได้ก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก แต่พอผ่านจากการเสนอชื่อก็ต้องทำเนื้อเรื่องเสนอกับอาจารย์อีกทีนี้ละ เรื่องเก่าว่ายากแล้วเรื่องใหม่ย่ากกว่าอีก เพราะการเสนองานมีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องคิดและค้นหาซึ่งทำให้เพื่อนในกลุ่มต่างพากันเครียดกันเลยที่เดียวในการทำโครงการจะต้องไปทำงานโครงการจิงๆๆจึงต้องไปทำ สถานที่ๆจะไปทำคือปราณบุรีจังหวัดประจวบฯแต่จะต้องไปพักที่หัวหินคือบ้านของเพื่อนด้วยจึงได้ไปพักแรมการไปทำงานครั้งนี้ไปกันถึง 2-3วัน พอกลับมาก็ได้ทำสรุปผลการดำเนินงาน พอสรุปเสร็จก็ทำ บูท ที่ตั้งฮั่วเส็ง แล้วงานก็จบลงสุดท้ายพองานจบก็ทำให้รู้ว่างานถึงมันจะยากหรือเหนื่อยสักแค่ไหน ความรักความสามัคคีของเพื่อนๆนั้นก็ทำให้ทุกสิ่งผ่านพ้นไปด้วยดี